ผอ. แจงปม อนุบาลแต่งชุดทหาร ชี้เป็นกิจกรรมตั้งแต่ปี 59 อ้างผู้ปกครองสมัครใจ

ผอ. แจงปม อนุบาลแต่งชุดทหาร ชี้เป็นกิจกรรมตั้งแต่ปี 59 อ้างผู้ปกครองสมัครใจ

ผอ. อนุบาลแต่งชุดทหาร ได้ออกมาชี้แจงถึงดราม่าดังกล่าว เผยเป็นกิจกรรมที่มีตั้งแต่ปี 59 และที่ผ่านมาผู้ปกครองก็สมัครใจมาตลอด จากกรณีที่ หมอแล็บแพนด้า โพสต์รูปกฎระเบียบแต่งงานของ โรงเรียนอนุบาล ที่พบว่ามีการ แต่งชุดทหาร จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความจำเป็น และ เครื่องค่าใช้จ่ายดั่งไปที่รายงานไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุด นายณรงค์ มุกดาแสงสว่าง ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลกาญจนบุรี 

ได้ออกมาชี้แจงว่าการที่ อนุบาลแต่งชุดทหาร เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “กองพันอารักขาแผ่นดิน” ของโรงเรียน ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 เป็นกิจกรรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ให้แก่นักเรียน

โดยให้เด็กได้เข้าร่วมทำกิจกรรมในแหล่งเรียนรู้ใกล้เคียงโรงเรียน โดยส่วนใหญ่เป็นสถานที่ทำงานของทหาร เป็นกิจกรรมที่คล้ายกับกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี ซึ่งปกติระดับชั้นอนุบาลยังไม่มีกิจกรรมลูกเสือ ซึ่งกิจกรรมนี้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่พัฒนาผู้เรียนให้มีวินัย สร้างความสนุกสนานให้เด็กวัยนี้ โดยจัดขึ้นเฉพาะนักเรียนชั้นอนุบาล 3

ในประเด็นของเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียน ระบุว่า ราคาชุดอยู่ที่ประมาณชุดละ 300 บาท โดยโรงเรียนพยายามหาร้านตัดชุดที่ราคาถูกที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง โดยก่อนเริ่มกิจกรรม ได้สอบถามความคิดเห็นของผู้ปกครองก่อนเปิดภาคเรียนทุกปีการศึกษาว่า สมัครใจซื้อชุดให้ลูกหรือไม่ ถ้าผู้ปกครองลำบากใจ หรือมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย โรงเรียนก็ไม่ได้ว่าอะไร อนุญาตให้ใส่ชุดอื่นเข้าร่วมกิจกรรมได้ ซึ่งที่ผ่านมาผู้ปกครองก็พึงพอใจกับกิจกรรมที่โรงเรียนจัดขึ้น

หลังเป็นข่าว ตอนนี้ทางโรงเรียนได้มีการประชุมหารือกัน และออกแถลงการณ์ เบื้องต้นจากการประเมิน อาจต้องยกเลิกการสวมใส่ชุดอาเซียน เพื่อลดค่าใช้จ่ายการซื้อเครื่องแต่งกายของนักเรียน ส่วนชุดทหารที่เป็นข่าว โรงเรียนจะกำหนดแนวทางโดยการช่วยจ่ายค่าชุดให้ผู้ปกครองครึ่งหนึ่ง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย

หลวงพี่ไม่ตลกด้วย หลังมีญาติโยม ใส่บาตรถุงยาง ถามดูข่าวพระมากเกินไปรึเปล่า วอนอย่าเหมารวม ความชั่วอยู่ที่บุคคลไม่ใช่กลุ่มคน ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นพระสงฆ์ได้โพสต์ข้อความและภาพลงเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นภาพของถุงยางอนามัยจำนวนมาก โดยระบุว่า ถุงยางอนามัยญาติโยมใส่บาตรมาให้

โดยพระสงฆ์รูปนี้ที่ญาติ ใส่บาตรถุงยาง มาให้ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “ถึงยุคที่โยมใส่บาตรถวายพระเณรด้วยถุงยางอนามัยแล้วหรือ โยมดูข่าวเกี่ยวกับพระมากเกินไปจนขึ้นสมองหรือเปล่า

โยมอย่าไปเหมารวม คิดไปเอง หรืออคติกับพระสงฆ์องค์เณรว่าเป็นคนแบบนั้นแบบนี้ ความดี ความชั่วนั้นอยู่ที่ตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเหมารวมกลุ่มคนไม่ได้ ยิ่งแสดงอาการกิริยาแบบนี้ทั้งที่เป็นชาวพุทธยิ่งใช้ไม่ได้เลย” พระภิกษุสามเณร ก็คือนักเรียน นักศึกษา ใครเรียนจบก็ผ่านการศึกษา (ถึงนิพพาน ควรค่าแก่การกราบไหว้) ใครเรียนไม่จบไม่ผ่านก็เรียนต่อซ้ำชั้นไป

วัดยังเป็นวัดได้เพราะมีพระสงฆ์องค์เณร ให้จ้างโยมมาเฝ้าวัดวัน 300 บาท โยมยังไม่มาเลย พระดีไม่ดีโยมก็ดูออก เขาเฝ้าวัดให้ท่านดูแลเสนาสนะทำความสะอาดให้ สวดมนต์ไหว้พระแผ่เมตตาให้กับท่านแลกกับข้าวที่ราคาไม่ถึงร้อยบาท จากโยมที่เมตตา

คำนวณให้แล้ว ลดเงินสมทบ ประกันสังคม 3 เดือน ประหยัดเงิน ได้กี่บาท

“ลดเงินสมทบ” ประกันสังคม  ผู้ประกันตน ม.40 คำนวณให้แล้ว 3 เดือน ประหยัดเงิน ได้กี่บาท จ่ายเท่าไหร่ เคาะมาแล้ว ประกาศมาตรการ ลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมของ ผู้ประกันตน มาตรา 33 เหลือ 1% ผู้ประกันตน มาตรา 39 เหลือเพียง 91 บาทต่อเดือน และสำหรับผู้ประกันตน มาตรา 40 มีการขยายระยะเวลาลดเงินสมทบเป็นเวลา 6 เดือนตั้งแต่ ก.พ. – ก.ค. 2565

เมื่อวันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม 2565 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยมาตรการที่เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่เดือน พ.ค.- ก.ค.เช่นกัน คือการ ลดเงินสมทบ เข้ากองทุน ประกันสังคม ของ ผู้ประกันตน มาตรา 33 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 11.2 ล้านคน ได้ปรับลดทั้งส่วนเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนจากเดิมร้อยละ 5 เหลือฝ่ายละร้อยละ 1 ของค่าจ้าง ในส่วนของ ผู้ประกันตน มาตรา 39 ซึ่งมีอยู่ประมาณ 1.9 ล้านคน ปรับลดอัตราเงินสมทบจาก 432 บาทต่อเดือน ก็ลดลงเหลือ จ่ายเพียง 91 บาทต่อเดือน

สำหรับ ผู้ประกันตน มาตรา 40 ซึ่งมีอยู่ 10.7 ล้านคน ได้มีการขยายระยะเวลาลดเงินสมทบเป็นเวลา 6 เดือนตั้งแต่ ก.พ. – ก.ค. 2565 ซึ่งเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาก็ได้เผยแพร่อัตราเงินสมทบในส่วนของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้อัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนกับรัฐบาลลดลง ใน 3 ทางเลือก แยกเป็น

ผู้ประกันตนที่เดิมจ่ายเงินสมทบอัตรา 70 บาท ต่อเดือน ลดลงเป็น 42 บาท ต่อเดือน รัฐบาลลดเงินสมทบจาก 30 บาท เหลือจ่าย 21 บาทต่อเดือน ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ในกรณีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ และกรณีตาย

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป